Wednesday, November 27, 2013

แบบทดสอบ

แบบทดสอบ

1.ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการบริการแบบผสมผสาน
. การฟื้นฟูสภาพ
. การป้องกันโรค
. การบำบัดสุขภาพจิต
. การรักษาพยาบาล

2.รัฐต้องสนับสนุนการสาธารณสุขด้านใด
. การจัดหาอาสาสมัคร
. การอบรมความรู้แก่อาสาสมัคร
. สภาพคล่องทางการเงินของอาสาสมัคร
. ให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตของอาสาสมัคร

3.การดำเนินการกองทุนยาต้องคำนึงถึงเรื่องต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
. ยานำเข้ามากคุณภาพ
. ราคาประหยัด
. สามารถซื้อได้สะดวก
. ประชาชนซื้อได้รวดเร็ว

4.บุคคลในข้อใดที่ได้รับการดำเนินงานสาธารณะสุขขั้นพื้นฐานด้านเอดส์ไม่ถูกต้อง
. นาย Mra ได้รับการปลูกทัศนคติต่อผู้ติดเชื้อเอดส์ในทางที่ดีขึ้น
. นาย Otgnis ได้รับการอบรมสาเหตุการติดเอดส์เพื่อหาทางป้องกัน
. นาย Oodam เรียนรู้วิธีการปฏิบัติตนต่อผู้ติดเชื้อเอดส์
. นาย Zmax ได้เรียนรู้เทคนิคการแพร่กระจายโรคเอดส์ให้เป็นปัญหาสังคม

5.องค์การอนามัยโลก มีอักษรย่อว่าอะไร
. WHAT
. WHERE
. WHO

. WHY

6. คิวบันรุมบ้า (Cuban Rumba) จัดเป็นลีลาศประเภทใด
ก. ประเภทบอลรูม (Ballroom)
ข. ประเภทเบ็ดเตล็ดต่างๆ
ค. ประเภทลาตินอเมริกัน (Latin American)
ง. ประเภทวอลทช์ (Waltz)

7. คิวบัน รุมบ้า ได้รับการขนานนามว่าเป็น ...............................
ก. king of Latin
ข. queen of Latin
ค. king of movement
ง. queen of movement

8. ข้อใดกล่าวถึงจังหวะดนตรีของคิวบัน รุมบ้าได้ถูกต้อง
ก. มี 2 จังหวะในหนึ่งห้องเพลง เสียงเน้นหนักที่จังหวะ1
ข. มี 4 จังหวะในหนึ่งห้องเพลง เสียงเน้นหนักที่จังหวะ1
ค. มี 4 จังหวะในหนึ่งห้องเพลง เสียงเน้นหนักที่จังหวะ2
ง. มี 4 จังหวะในหนึ่งห้องเพลง เสียงเน้นหนักทุกจังหวะ

9. ข้อใดเป็นลักษณะเฉพาะของคิวบัน รุมบ้า
ก. เป็นจังหวะที่ค่อนข้างช้านุ่มนวล สวยงาม แฝงด้วยลีลาที่ยั่วยวน
ข. เป็นจังหวะที่เร็ว เน้นที่การลงน้ำหนักเท้า
ค. เป็นจังหวะที่ มั่นคง และ น่าเกรงขาม โล่งอิสระ ไม่มีการสวิง และเลื่อนไหลการกระแทกกระทั้น เป็นช่วงๆ
ง. เป็นจังหวะเต้นรำที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ในลักษณะโคจรไปโดยรอบ (Rotating Dance)

10. ข้อใดไม่ใช่ฟิกเกอร์พื้นฐานของจังหวะคิวบัน รุมบ้า
ก. Spot Turn
ข. Hand to Hand
ค. Shoulder to Shoulder
ง. Arm to arm

เฉลย ---> 1.  2.  3. 4. 5.  6. 7.  8.  9. 10.ง 

ประวัติความเป็นมาของจังหวะ Cuban Rumba

ประวัติความเป็นมาของจังหวะ Cuban Rumba

    

          จังหวะคิวบันรัมบ้าได้นำเข้ามาสู่ประเทศอเมริการาว ค.ศ. 1928-1929 โดยทาสชาวอัฟริกัน โดยการก้าวเท้าและรูปแบบการเต้นของจังหวะนี้ยังไม่ชัดเจนเลยที่เดียว จังหวะนี้เป็นการเต้นรูปแบบใหม่ของจังหวะ ฟอกซ์ทรอท ด้วยการเพิ่มการใช้สะโพกลงไป  หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จังหวะคิวบันรัมบ้าจึงได้รับการพัฒนาต่อไปให้เป็น โดย Monsieur Pierre และ Doris Lavell นักลีลาศชาวอังกฤษ แต่ก็ยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร
          รุมบ้าเป็นจังหวะที่จัดอยู่ในพวกลาตินอเมริกัน (Latin American) กำเนิดขึ้นในชนชาติหมู่เกาะคิวบา จังหวะนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่แพร่ออกสู่โลกลีลาศหลังแทงโก้ (Tango) และวอลทซ์ (Waltz) ปัจจุบันนี้จังหวะรุมบ้า (Rumba) เป็นที่รู้จักกับคนทั่วโลกมาเป็นเวลานานแล้ ลักษณะการลีลาศจังหวะรุมบ้า เป็นการลีลาศคล้ายๆ จังหวะวอลทซ์ แต่จังหวะค่อนข้างเร็วกว่า การก้าวเท้าก็สั้นกว่า และนอกจากนี้รุมบ้ายังต้องใช้สะโพกเคลื่อนไหวให้สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว ของเท้าด้วย คือนับตั้งแต่เอวลงไปให้โยกหรือส่ายสะโพกได้เล็กน้อยให้ดูแต่พองาม ถ้าโยกหรือส่ายมากจะดูเป็นเรื่องน่าเกลียดไป และไม่สวยงามด้วย
       

          การใช้สะโพกเคลื่อนไหวให้สัมพันธ์กับการก้าวเท้านั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องฝึก ผู้ฝึกใหม่อาจจะฝืนตัวเองเล็กน้อย เพราะผู้ฝึกใหม่ส่วนมากใจมักจะมุ่งอยู่ที่การก้าวเท้าให้ถูกสเต็ปเท่านั้น   ความสวยงามของรุมบ้านั้นอยู่ที่การก้าวเท้า การถ่ายเทน้ำหนักตัว และการใช้สะโพก ทั้งสามอย่างนี้ต้องให้สัมพันธ์กันและเป็นไปตามหลักธรรมชาติ ส่วนลำตัวตั้งแต่เอวขึ้นไปให้อยู่ในลักษณะตรงแบบสบายๆ ไม่เกร็ง ไม่ยืดคอ ไม่แอ่นอก ไม่ทำหลังค่อม และไม่เอียงตัวไปมา


องค์ประกอบทั่วไป
·       จังหวะดนตรี เป็นจังหวะประเภท 4/4 คือมี 4 จังหวะในหนึ่งห้องเพลง เสียงเน้นหนักที่จังหวะ1
·       แต่ละจังหวะให้ค่าเท่ากับ1
·       ความเร็ว 27 ห้องเพลงต่อ 1 นาที
·       การนับ นิยมนับ 2,3,4-1 หรือ เร็ว เร็ว ช้า
·       การก้าวเท้า จะ หนักหน่วง เคลื่อนที่ตามจังหวะ การเดินที่แข็งแรงและตรงทิศทาง

เอกลักษณ์เฉพาะของการเคลื่อนไหว
เป็นจังหวะที่ค่อนข้างช้านุ่มนวล สวยงามและโรแมนติกน่าประทับใจแฝงด้วยลีลาที่ยั่วยวน กระตุ้นความรู้สึก ดูดดื่ม ยั่วเย้าและการผละหนีอย่างมีจริต จังหวะคิวบันนี้ความสำคัญอยู่ที่การเคลื่อนไหวสะโพก ซึ่งเกิดจากการควบคุมการโอนถ่ายน้ำหนักจากเท้าหนึ่งไปยังอีกเท้าหนึ่ง เมื่อเท้าใดเท้าหนึ่งรับน้ำหนักตัวสะโพกด้านนั้นจะเหวี่ยงออกไปในลักษณะหมุนเป็นวงกลมคิวบัน รัมบ้า ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Queen of Latin”

ฟิกเกอร์พื้นฐาน ประกอบด้วย
1. ทักษะเบื้องต้น  (Basic Movement)


2. การหมุนพร้อมกันทั้งชายและหญิง (Spot Turn)


3. นิวยอร์ค (New York)


4. โชลเดอร์ทูโชลเดอร์(Shoulder to Shoulder)
 

5. แฮนด์ทูแฮนด์ (Hand to Hand)


ขอบคุณข้อมูลจาก

Monday, November 25, 2013

การสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน

          การสาธารณสุขขั้นพื้นฐานเป็นกลวิธีทางการสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้นจากระบบบริการสาธารณสุขของรัฐ บริการทั้งรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และฟื้นฟูสภาพ ที่ดำเนินการโดยประชาชนเอง โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ด้านวิชาการ การฝึกอบรม และส่งต่อผู้ป่วย โดยอาศัยทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นเป็นหลัก และผ่านการยอมรับของชุมชนและมีค่าใช้จ่ายในระดับที่ชุมชนยอมรับได้ และต้องมีการยอมรับฟังความคิดเห็นของคนในกลุ่ม

ความเป็นมา
เมื่อปี พ.. 2524 - 2525 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เสนอว่า หากจะให้ประชากรทุกคนในประเทศมีสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น งานสาธารณสุขจะต้องได้รับการส่งเสริม ให้ชาวบ้านได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ซึ่งประเทศสมาชิกขององค์การอนามัยโลกได้มีมติให้ถือว่า ปี พ.. 2543 เป็นเป้าหมายที่ประชากรทุกคนของประเทศสมาชิกจะมีสุขภาพอนามัยดีอย่างทั่วถึง เมื่อเดือนกันยายน 2521 ได้มีการประชุมเรื่องการสาธารณสุขมูลฐานขึ้นที่เมืองอัลมาตาประเทศรัสเซีย ที่ประชุมยอมรับหลักการว่า สาธารณสุขขั้นพื้นฐาน เป็นกลวิธีที่เหมาะสมที่จะทำให้ประชากรทุกคนมีสุขภาพอนามัยดีอย่างทั่วถึง

การบริการแบบผสมผสาน 4 ด้าน คือ
   •      การป้องกันโรค
   •      การส่งเสริมสุขภาพอนามัย
   •      การรักษาพยาบาล
   •      การฟื้นฟูสภาพ
ซึ่งสามารถแยกออกเป็นงานที่ประชาชนสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองออกเป็นงานต่าง ๆ ซึ่งเรียกว่า องค์ประกอบของงานสาธารณสุขมูลฐาน จำนวน 14 องค์ประกอบคือ
          1. ด้านงานโภชนาการ มีหน้าที่กระตุ้นเตือนให้ประชาชนได้ตระหนักถึงปัญหาโภชนาการที่เกิดขึ้น เช่น โรคขาดสารอาหารในเด็ก โดยร่วมมือกับกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำ กลุ่มแม่บ้าน เมื่อพบเด็กคนใดที่ขาดสารอาหารก็ดำเนินการให้อาหารเสริมโดยเร็ว ให้ความรู้แก่แม่ในการให้อาหารแก่ทารก ตลอดจนส่งเสริมการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เพื่อนำมาเป็นอาหาร

          2. ด้านสุขศึกษา ให้การศึกษาในเรื่องต่าง ๆ เช่น ปัญหาสาธารณสุขของท้องถิ่น การร่วมกันแก้ไขปัญหา เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคและการส่งเสริมสุขภาพอนามัยให้แก่ประชาชนในชุมชน

          3. ด้านการรักษาพยาบาล มีหน้าที่ให้การรักษาพยาบาลที่จำเป็นเบื้องต้น ชี้แจงให้ทราบถึงความสามารถของ อสม. ในการรักษาพยาบาล และสถานบริการของรัฐ ตลอดจนส่งต่อผู้ป่วยถ้าเกินความสามารถของ อสม.

          4. ด้านการจัดหายาที่จำเป็น ดำเนินการจัดตั้งกองทุนยาและเวชภัณฑ์ประจำหมู่บ้าน หรือจัดหายาที่จำเป็นไว้ให้บริการในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.) และดำเนินการให้ประชาชนสามารถซื้อยาที่จำเป็นเหล่านี้จากกองทุน หรือ ศสมช. ได้สะดวก รวดเร็ว และมีราคาถูก

          5. ด้านการสุขภิบาลและจัดหาน้ำสะอาด ชี้แจงให้ประชาชน กรรมการหมู่บ้าน ทราบถึงความสำคัญของการจัดหาน้ำสะอาดไว้ดื่ม การสร้างส้วม การกำจัดขยะมูลฝอย และการจัดบ้านเรือนให้สะอาด

          6. ด้านอนามัยแม่และเด็กและการวางแผนครอบครัว ชี้แจงและจูงใจให้ประชาชนทราบถึงความสำคัญของการวางแผนครอบครัว ความจำเป็นของการดูแลก่อนคลอด (การฝากครรภ์) และการดูแลหลังคลอด นัดหมายมารดามารับบริการและความรู้ในการปฏิบัติตน การกินอาหาร ชั่งน้ำหนัก และวัดความดันโลหิต นัดเด็กมารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดต่อ

          7. ด้านงานควบคุมป้องกันโรคติดต่อในท้องถิ่น ชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าในหมู่บ้านมีโรคอะไรที่เป็นปัญหา เช่น โรคอุจาระร่วง โรคพยาธิ ไข้เลือดออก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการป้องกันและรักษา รวมทั้งการร่วมมือกันในการดำเนินการควบคุมและป้องกันมิให้เกิดโรคระบาดขึ้นได้

          8. ด้านการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงความสำคัญของการให้วัคซีนป้องกันโรคติดต่อ และนัดหมายเจ้าหน้าที่ห้บริการแก่ประชาชน    
             

          9. ด้านการส่งเสริมสุขภาพฟัน ชี้แจงและให้ความรู้กับประชาชนถึงการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน นัดหมายประชาชนให้มารับบริการในสถานบริการหรือเมื่อมีหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่เข้ามาในชุมชน

          10. ด้านการส่งเสริมสุขภาพจิต ชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงการส่งเสริมสุขภาพจิต การค้นหาผู้ป่วยในระดับชุมชน เพื่อจะได้รับการแนะนำ การรักษาที่ถูกต้อง

          11. ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ร่วมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับงานอนามัยสิ่งแวดล้อมกับประชาชน เฝ้าระวังมิให้มีการกระทำที่ก่อให้เกิดมลภาวะ ร่วมกันวางแผนแก้ปัญหาของชุมชนเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ส่งเสริมและให้ความรู้เรื่องสารเคมีในการเกษตร และแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิด

          12. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับประชาชนสอดส่องดูแลพฤติกรรมของร้านค้า รถขายยาเร่  หากพบเห็นผู้กระทำผิดกฏหมายก็แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการ ให้ความรู้ในการเลือกซื้อสินค้าที่มีมาตรฐานมาใช้ ตลอดจนจัดตั้งกลุ่ม ชมรม เพื่อร่วมมือประสานงานกันดูแลประชาชนในพื้นที่ 
          13. ด้านการป้องกันควบคุมอุบัติเหตุ อุบัติภัย และโรคไม่ติดต่อ ร่วมค้นหาผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิต มะเร็ง พร้อมจัดทำทะเบียนรายชื่อผู้ป่วยเพื่อรับการรักษาหรือส่งต่อ วิธีการปฏิบัติตนให้พ้นจากการเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อต่าง ๆ ให้ความรู้แก่ประชาชนถึงแนวทางการป้องกันและควบคุมอุบัติเหตุ อุบัติภัย ตลอดจนสร้างเสริมความมีน้ำใจและเอื้ออาทรต่อผู้พิการในชุมชนและร่วมกันฟื้นฟูสภาพผู้พิการ

          14. ด้านเอดส์ ให้ความรู้กับประชาชนให้ทราบถึงความสำคัญ และความจำเป็นในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติ และการปฏิบัติที่ถูกต้องในการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์
***องค์ประกอบของงานสาธารณสุขมูลฐานทั้ง 14 องค์ประกอบ ไม่จำเป็นต้องเริ่มทีเดียวพร้อมกันหมดทุกอย่าง อาจจะเริ่มในเรื่องที่ดว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นจริง ๆ ของชุมชนก่อน แล้วภายหลังต่อมาก็ขยายต่อไป และถ้าหากชุมชนใดไม่มีปัญหาในบางเรื่อง องค์ประกอบที่ดำเนินการก็อาจลดลงได้ตามสภาพของความเป็นจริงของชุมชนนั้น

อ้างอิง       

http://th.wikipedia.org/wiki/สาธารณสุขมูลฐาน